การดูแลและ การเก็บรักษายา อย่างถูกวิธีคงไม่ใช่เรื่องไกลตัวของเรามากนัก เพราะ ในทุกวันนี้ ไม่ว่าจะใครก็ตาม เพศหญิง ชาย อายุมาก หรือน้อย ก็ต้องกินยาเหมือนกัน หากมีอาการที่บ่งบอกว่าร่างกายของคุณกำลังป่วย หรือมีความผิดปกติ ดังนั้น เชื่อว่าทุกบ้านจะต้องมียาเก็บไว้ อย่างน้อยก็เป็นยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาแก้ปวดอย่างพาราเซตามอล ยาธาตุแก้ปวดท้อง แก้ท้องเสีย หรือว่ายาแก้ไอก็ตาม

การเก็บรักษายา และยาเสื่อมสภาพ เกิดได้หลายสาเหตุ
ความชื่น : ความชื่นที่ยาได้รับอาจเกิดจากการปิดฝาขวดยาไม่สนิท ปิดถุงยาไม่สนิท หรือการแกะยาออกมาจากแผงยาแล้วไม่ได้รับประทานยานั้นทันที ความชื่นที่เข้าไปจะส่งผลให้ตัวยาของเราเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ตัวยาสลายตัว หรือสารที่เคลือบตัวยาไว้เกิดการละลาย หรืออาจทำให้เม็ดยามีขนาดที่บวมขึ้น
อากาศ : อากาศเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความชื่น การปิดฝาขวดยาไม่สนิท อาจทำให้อากาศเข้าไปสัมผัสกับตัวยาได้ จึงเป็นการเร่งการเสื่อมคุณภาพของยาให้เร็วขึ้น

- แสงแดด : ลองสังเกตดูหากเราซื้อยามา หรือได้รับยามาจากโรงพยาบาล จะมียาบางตัวที่เภสัชกรแจ้ง หรือมีการเขียนแจ้งไว้ว่า “ยาชนิดนี้ห้ามโดนแสงแดด” เพราะ ตัวยาบางตัวหากโดนแสงแดดจะทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลง
- อุณหภูมิ : ยาแต่ละตัวมีการเก็บในอุณหภูมิที่ต่างกัน สังเหตุได้จากยาบางชนิดต้องเก็บไว้ในตู้เย็น ยาบางชนิดสามารถเก็บในอุณหภูมิห้องได้ปกติ ดังนั้น อุณหภูมิจึงเป็นตัวแปรสำคัญในการทำให้ยาเสื่อมประสิทธิภาพ หากเก็บยาไว้ไม่ถูกที่

เก็บยาให้ถูกวิธีทำได้ง่าย ๆ
- แยกประเภทของยาแต่ละชนิดให้ชัดเจน จัดเก็บยาให้เป็นหมวดหมู่ เช่น ยาที่ต้องเก็บโดยการแช่ตู้เย็น ยารักษาภายนอกจำพวกยาทา ยาที่สามารถเก็บได้ในอุณหภูมิห้อง เป็นต้น
- ควรเก็บยาให้อยู่ในสภาพเดิมมากที่สุด คือ หากยาที่ได้รับมามีลักษณะเป็นแผงไม่ควรแกะยาออกมารอทิ้งไว้ หากยังไม่ได้รับประทาน หากมีความจำเป็นจริง ๆ ที่ต้องแบ่งยาออกมาก่อนเวลารับประทาน เพื่อพกพายาไปรับประทานที่อื่น ควรที่จะเก็บยาที่แยกออกมาให้มิดชิด ห้ามให้ยาสัมผัสกับอากาศ หรือความชื่นเด็ดขาด
- ต้องเก็บยาไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม โดยต้องแยกยาออกให้ชัดเจน แบ่งแยกยาให้เป็นหมวดหมู่ตามอุณหภูมิที่ต้องเก็บรักษาว่ายาชนิดใดห้ามโดนแสงแดด ยาชนิดใดต้องเก็บในตู้เย็น
กดติดตามเว็บไซต์ การดูแลสุขภาพ
บทความสุขภาพที่น่าสนใจ ปัญหาของอาการเสี่ยวฟัน เลือกยาสีฟันอย่าง