การกินอาหารดิบ raw food คือเทรนด์การกินยอดนิยมที่ชาวตะวันตกทำกันมานานแล้ว ซึ่งเป็นการกินแต่ผักผลไม้ที่ไม่ผ่านความร้อนหรือปรุงแต่ง ทั้งยังไม่แตะเนื้อสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์เลยและการที่เทรนด์การกินนี้ได้รับความนิยมมากไม่ใช่เพียงเพราะกินแล้วได้สุขภาพดี แต่ยังมีประโยชน์อีกมากมาย

การกินอาหารดิบ raw food กินได้ไม่กี่อย่างจึงทำให้ไม่อ้วน
เมื่อคุณต้องกินอาหารดิบเป็นหลัก คุณจึงจำเป็นต้องเลือกมากขึ้น ดังนั้นนี่ก็ถือเป็นข้อจำกัดที่จะทำให้คุณไม่สามารถกินอาหารที่เต็มไปด้วยแคลอรีได้ เช่น ไก่ทอด ข้าวขาหมู สปาเกตตี เค้ก คุกกี้ มันฝรั่งทอด ชาไข่มุก ดังนั้นการที่คุณกินนั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ ก็จะทำให้คุณกินได้น้อยอย่างลงมาก และสามารถควบคุมน้ำหนักหรือไดเอตได้ดีเยี่ยม

กินอาหารดิบทำให้เอนไซม์ในอาหารไม่ถูกทำลาย
อาหารดิบจะต้องไม่ถูกปรุงด้วยความร้อนเกิน 42-47 องศาเซลเซียสนั้น ก็เนื่องจากสาเหตุว่าหากปรุงด้วยความร้อนที่เกินนี้ก็จะทำให้เอนไซม์ที่มีประโยชน์ในอาหารสดสลายไป ทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์น้อยลง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก โดยเฉพาะเอนไซม์ที่ช่วยในการย่อยและดูดซึมอาหารจะสลายตัวได้ง่ายมากหากผ่านความร้อนสูงๆ ดังนั้นหากได้กินอาหารสดเสมอก็จะช่วยให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้นมาก นอกจากนี้ยังถือว่าเอนไซม์ในอาหารดิบช่วยลดน้ำหนัก เพราะเมื่อย่อยได้ดี ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการไดเอตหรือคุมน้ำหนัก

การกินอาหารดิบจะช่วยให้ได้รับแคลอรีน้อยลง
การกินอาหารดิบจะไม่เน้นปรุงแต่งหรือไม่มีการปรุงเลย ดังนั้นยิ่งคุณไม่ปรุง กินอาหารแบบสดๆ เป็นธรรมชาติเลย ก็จะทำให้คุณได้รับแคลอรีน้อยลง เพราะส่วนใหญ่แล้วสาวๆ ที่ไดเอตมักเน้นเลือกผักมากินเป็นอาหารหลัก แต่เพราะการปรุงโดยใช้เครื่องปรุงมาก ก็จะทำให้ได้รับแคลอรีมากตามไปด้วย เช่น แคลอรีที่ได้จากเครื่องปรุงอย่างน้ำตาล น้ำมันที่ใช้ผัด เนย นม ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก น้ำมันงา น้ำมันหอย แต่หากกินแบบสดๆ เลยก็ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปรุงเหล่านี้

กิน raw food ได้วิตามินครบถ้วน
นอกจากเอนไซม์ในอาหารดิบแล้ว การกินอาหารดิบที่ไม่ผ่านความร้อนก็จะคงคุณค่าทางสารอาหารไว้อย่างเต็มเปี่ยม โดยเฉพาะผักผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินซีที่มักจะสูญสลายได้ง่ายเมื่อถูกความร้อน ก็จะคงคุณภาพดีหากได้กินสดๆ
ฝากกดติดตาม เคล็ดลับสุขภาพ
ข่าวสารสุขภาพดี ๆ 3 ประโยชน์ของมะเขือเทศ อาหารผิวของสาว ๆ