โรคซึมเศร้า
การดูแลสุขภาพ การป้องกันโรค

พิษร้าย โรคซึมเศร้า จากสถานการณ์ covid 19 ที่กำลังทำลายสุขภาพของคนไทยมากขึ้น

BigComments Off on พิษร้าย โรคซึมเศร้า จากสถานการณ์ covid 19 ที่กำลังทำลายสุขภาพของคนไทยมากขึ้น

ในช่วงเดือนมิถุนายนกลางปี 2560 นี้ประเทศไทยของเราจัดว่าอยู่ในสถานการณ์ที่มีการควบคุมสถานการณ์ covid 19 ได้เป็นอย่างดีและมีประชาชนเป็นจำนวนมากที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว แต่สิ่งที่ตามมาจากวิกฤตนี้ กลับกลายเป็น โรคซึมเศร้า และภาวะโรคเครียดจากสถานการณ์ covid 19 ที่ได้ครอบคลุมสุขภาพของคนไทยมากกว่า 1 ส่วน 4 ของประเทศ สำหรับวันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปมองอีกมุมหนึ่งของผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าจากสถานการณ์ covid 19 กันแบบจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกนึกคิด หรือแนวทางการจัดการปัญหาเหล่านี้ของผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้กันนะคะ ถ้าหากว่าใครที่มีอาการเหล่านี้สามารถชมบทความนี้เป็นแนวทางกันได้เลยค่ะ

โรคซึมเศร้า

โรคซึมเศร้า ปัญหาทางด้านจิตวิทยา จะมีสภาพจิตใจที่ค่อนข้างแย่หากเครียดมากเกินไป

ถ้าหากลองมองกันดีๆบางคนอาจจะคิดว่าไม่เป็นไรหรอก หลังจากสถานการณ์ทุเลาลงแล้วก็อาจจะมีความเครียดน้อยลงก็ได้แต่อันที่จริงปัญหาทางด้านจิตวิทยา จัดเป็นปัญหาที่มีการรักษาค่อนข้างยาวนานและต้องใช้การรักษาอย่างละเอียดและถูกวิธี ดังนั้น โรคซึมเศร้าจากสถานการณ์covid 19 ซึ่งสาเหตุนั้นก็มาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการกลัวการติดเชื้อ covid19 หรือ การที่ใช้เวลากักตัวอยู่บ้านเป็นเวลานานไม่ได้ออกไปทำงานและเจอกับเพื่อนๆจนทำให้คุณรู้สึกหม่นหมองชีวิตไม่มีความสุข

พิษร้าย โรคซึมเศร้า จากสถานการณ์ covid 19

โดยผู้คนเหล่านี้จะเก็บเอาเรื่องที่ไม่ดีมาคิดและตอกย้ำตัวเองและจะมีคิดย้ำทำซ้ำ ซึ่งผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือโรคเครียดจะมีสภาพจิตใจที่ค่อนข้างแย่ ดังนั้นจึงต้องมีเพื่อนคอยปลอบใจและที่ปรึกษาคอยระบายเพื่อที่จะไม่ให้ผู้ป่วยเหล่านี้เกิดความเครียดมากเกินไป นอกจากนี้อาจทำให้ผู้ป่วยที่มีอาการเหล่านี้รู้สึกเครียดและไม่อยากจะทำอะไรในชีวิตประจำวันบางประเภทอาจจะไม่ทานอาหาร หรือ บางประเภทอาจจะรู้สึกว่าไม่อยากจะมีชีวิตต่อไป วิธีจัดการความเครียด ให้อยู่หมัด! ด้วยตนเอง ปัญหาต่างในสังคมมากมายที่พบเจอ

โรคซึมเศร้า ปัญหาทางด้านจิตวิทยา

อย่างไรก็ตาม โรคซึมเศร้าจากสถานการณ์ covid 19 ยังคงเป็นอีกหนึ่งปัญหาทางสุขภาพจิตที่ได้รับผลกระทบกับสถานการณ์ covid-19 และไม่ควรจะมองข้ามปัญหาเหล่านี้ได้เลยนะคะ เคล็ดลับสุขภาพ ถ้าหากเพื่อนๆมีความรู้สึกเหล่านี้ตามที่นักเขียนได้กล่าวไป ก็ควรมีการปรึกษาเพื่อและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน รวมถึงทำตัวเองให้มีความสุขและหากิจกรรมอื่นๆ tiger711 ทำด้วยนะคะ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นโรคเครียดและโรคซึมเศร้ากันค่ะ

Big
http://www.oregonsoapworks.com

Related Articles

โรคติดหวาน
การป้องกันโรค ลดน้ำหนัก

โรคติดหวาน ชอบกินของหวานแบบขาดไม่ได้ จะแก้ไขอย่างไรให้ถูกต้องและปลอดภัยดี

Big

            โรคติดหวาน หลายคนรู้แก่ใจดีว่าการกินของหวานเป็นประจำไม่ดีต่อรูปร่างและสุขภาพแต่พยายามอย่างไรก็ลด ละ เลิกไม่ได้ซะที วันนี้เราจะมาบอกวิธีลดหวานง่ายๆ ที่ไม่ทำร้ายจิตใจคนชอบกินหวานกัน              วิธีแก้ปัญหา โรคติดหวาน  ชอบกินของหวานอย่างได้ผลยั่งยืน              เช็กตัวเองก่อน! ก่อนอื่นต้องพิจารณาด้วยใจที่เป็นกลางถึงการติดหวานของตนเองว่า  ปกติหรือเข้าขั้นวิกฤติแค่ไหนแล้ว จะทำให้คุณเห็นความจริงและทราบว่าควรแก้ไขตรงจุดไหน  ตระหนักในความวุ่นวายของโรคติดหวาน นอกเหนือไปจากน้ำหนักเพิ่มเร็วสุขภาพไม่ดีเป็นสาเหตุของโรคภัยต่างๆ แล้ สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับคนชอบกินหวานก็คือ…  –  ทำให้หงุดหงิดโมโหง่ายหากไม่ได้กินหวานหรือร่างกายไม่ได้รับน้ำตาลพอเพียง  –  การดำเนินชีวิตหรือการกินอยู่ยากขึ้น ไม่มีความสุขหรือกินไม่อร่อยหากสิ่งที่กินไม่หวานเพียงพอ–  บางคนอาจต้องพกน้ำตาลเป็นกระปุก พกของหวานอย่างลูกอม คุกกี้ ช็อกโกแลต ไปทุกที่เพื่อเติมความหวานในแต่ละวัน ในชีวิตประจำวันเราได้รับน้ำตาลเกินพออยู่แล้วครับ–  ทำให้อาการชอบกินหวานของเราเพิ่มเลเวลขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว เช่น ปกติเคยเติมน้ำตาล 2 ช้อนชาในกาแฟอาจเพิ่มเป็น 3 – 4 ช้อนชาในเวลาไม่นาน  รีบแก้ไข หากพูดกันจริงๆ แล้วโรคติดหวานไม่ใช่โรค แต่เป็นภาวะหรืออาการอย่างหนึ่งเหมือนการไอ จาม ดังนั้นเมื่อเป็นแล้วจึงหายได้ แต่หากไม่รีบแก้ไข ถึงจะไม่ตักของหวานแม้ซักคำเข้าปาก แต่โรคที่เกิดจากความหวานหรือน้ำตาลก็ยังรุมเร้าไม่ปรานีเราแน่นอนตั้งใจจริง หากต้องการประสบความสำเร็จไม่ว่าจะทำสิ่งใดความตั้งใจจริงคือจุดเริ่มต้นที่เราต้องมี การเลิกติดหวานก็เช่นกัน ถ้าตั้งใจอะไรๆ ก็ง่ายขึ้น มีระเบียบวินัย การมีความเข้มงวดกับตัวเองในการเลิกหวาน ไม่อ่อนข้อให้ตัวเองและทำอย่างตลอดรอดฝั่ง จะทำให้เข้าใกล้เป้าหมายไปเกินครึ่งแล้วสังเกตตัวเอง คนชอบกินหวานควรหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของตนเองในทุกๆ วันทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อจะได้เห็นข้อดีของการเลิกติดหวาน มีกำลังใจมากขึ้นที่สำคัญคือทำให้รู้ว่าตัวเองควรเลิกหวานแบบค่อยเป็นค่อยไปหรือหักดิบไปเลยดหมั่นแสวงหาข้อมูล คนที่เป็นโรคติดหวานควรเพิ่มเติมความรู้ใหม่ๆ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นแนวทางในการเลิกหวานอย่างถูกต้องต่อไป และนำความรู้ที่เหมาะสมกับตนมาปรับใช้ กดติดตามเว็บไซต์ การดูแลสุขภาพข่าวสารสุขภาพที่น่าสนใจ โรคเบาหวาน มหันตภัยเงียบที่น่ากลัวหมั่นดูแลสุขภาพกันให้ดี

พฤติกรรม ทำร้ายสุขภาพ
การดูแลสุขภาพ

พฤติกรรม ทำร้ายสุขภาพพฤติกรรมที่เคยชินบางอย่างที่อาจจะทำร้ายสุขภาพของคุณได้

Big

พฤติกรรม ทำร้ายสุขภาพ คนเราทุกคนย่อมมีความเคยชินในการทำสิ่งเดิมๆในทุกวัน แต่สำหรับคนที่รักสุขภาพแล้ว ย่อมจะต้องมองหาวิธีการที่จะทำให้สุขภาพดีอยู่เสมอแต่ก็อาจจะมีนิสัยหรือพฤติกรรมที่เคยชินบางอย่างที่อาจจะทำร้ายสุขภาพของคุณได้ โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเราจะมาดูกันว่า พฤติกรรมทำร้ายสุขภาพ แบบไหนที่ควรหลีกเลี่ยง ในบทความนี้ พฤติกรรม ทำร้ายสุขภาพ แบบไหนที่ควรหลีกเลี่ยงกับการทำสิ่งเดิม ๆ ย้ำคิดกับตัวเองซ้ำๆถึงเหตุการณ์ที่ไม่ดีในอดีต หลายคนอาจมีเรื่องที่ไม่สบายใจที่ทำให้รู้สึกไม่ดีทุกครั้งที่นึกถึง และก็มักจะย้ำคิดแต่เรื่องเหล่านั้นอยู่ซ้ำๆซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีเลย เพราะจะทำให้เกิดความเครียดทั้งร่างกายและจิตใจที่ส่งผลต่อสุขภาพกายและจิตใจได้อย่างไม่รู้ตัว นอนดึก คุณอาจคิดว่าการลดเวลานอนลง 30 นาทีจะทำให้คุณทำงานหรือทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น และคุณก็คิดว่าพรุ่งนี้จะนอนให้เร็วขึ้นเพื่อชดเชย แต่เชื่อเถอะว่าท้ายที่สุดแล้วคุณก็จะต้องนอนดึกอยู่ในทุกๆคืน ซึ่งผลเสียของการนอนดึกนั้นส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพสมองและร่างกาย ทำให้เกิดความเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย ซึ่งเป็น พฤติกรรม ทำร้ายสุขภาพ ที่ควรหลีกเลี่ยง ขยับร่างกายน้อยมากในช่วงวัน คนจำนวนไม่น้อยที่นั่งทำงานทั้งวัน เมื่อกลับมาบ้านก็เอาแต่นอนจมอยู่หน้าจอโทรทัศน์หรือนอนบนเตียงเพื่อดูรายการบันเทิงจากมือถือ ดังนั้นสิ่งที่หายไปก็คือการขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกาย ที่ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดความอ้วนและน้ำหนักเกิน รวมทั้งกล้ามเนื้อที่ไม่แข็งแรง ดังนั้น หาโอกาสขยับร่างกายตลอดทั้งวันเพื่อให้รู้สึกแอคทีฟอยู่เสมอและเพิ่มอัตราการเผาผลาญในร่างกาย ไม่สนใจสุขภาพผิว บางครั้งคุณอาจจะทำงานเหนื่อยจนแทบไม่มีเวลาดูแลตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุขภาพผิวที่มักถูกละเลยได้ง่าย ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องทาครีมบำรุงผิวราคาแพงและแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางชั้นดี แต่หมายถึงคุณต้องไม่ลืมที่จะทาครีมกันแดดซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะละเลยการดูแลผิวในส่วนนี้ สิ่งเหล่านี้เป็นพฤติกรรมทำร้ายสุขภาพที่คนส่วนมากมักจะทำในชีวิตประจำวัน ดังนั้นหากสามารถหลีกเลี่ยงได้ก็จะทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นต่อสุขภาพลดลง ฝากกดติดตามเคล็ดลับสุขภาพข่าวสารสุขภาพที่น่าสนใจการพักผ่อน ยังไงให้ดีต่อใจ เยียวยาหัวใจและสุขภาพ

เคล็ดลับการนอน
การดูแลสุขภาพ

เคล็ดลับการนอน อย่างไรให้เป็นเรื่องง่าย ๆ สำหรับคนหลับยาก

Big

เคล็ดลับการนอน หรือการนอนเป็นกิจกรรมที่สำคัญสำหรับร่างกาย แต่ละวันร่ายกายของคนเราต้องการการนอนหลับพักผ่อนไม่น้อยกว่า 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนและปรับการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ แต่การเข้านอนให้หลับสนิทตามที่ต้องการนั้นอาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนทุกคน เพราะการอาการนอนไม่หลับกลายมาเป็นปัญหารบกวนสุขภาพของผู้คนส่วนใหญ่ของโลกในปัจจุบัน ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและต้องเผชิญกับภาวะอารมณ์ที่ไม่ปกติอันเนื่องมาจากการผลิฮอร์โมนที่ถูกรบกวน ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าเพื่อสุขภาพที่ดี เราควรดูแลกันอย่างไรเพื่อให้การนอนเป็นเรื่องง่าย 6 เคล็ดลับการนอน เพื่อสุขภาพที่ดี เราควรดูแลกันอย่างไร 1. ออกไปรับแสงในช่วงเวลากลางวันให้มากขึ้น เพราะแสงแดดจะช่วยปรับนาฬิกาชีวิต ช่วยให้ตื่นตัวในเวลากลางวันและรู้สึกสงบลงได้มากกว่าในเวลากลางคืน และแน่นอนว่าตัวนาฬิกาชีวิตที่คงที่นี้จะช่วยให้เราสามารถเข้านอนได้ง่ายขึ้นในเวลากลางคืนนั่นเอง 2. ลดการเผชิญแสงสีฟ้าในช่วงเย็นและก่อนเข้านอน เพราะแสงสีฟ้ามีคุณสมบัติคล้ายแสงแดด และเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายใช้ความคิดเหมือนในช่วงกลางวัน และนี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การนอนของเราเป็นไปได้ยากขึ้น และกระทบกับสุขภาพในท้ายที่สุด 3. หลีกเลี่ยงการรับคาเฟอีนเข้าสู่ร่างกายในช่วงเย็นถึงก่อนนอน เพราะตัวคาเฟอีนจะมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของประสาทส่วนกลาง กระตุ้นให้หัวใจสูบฉีดโลหิตเร็วขึ้น ทำให้ร่างกายตื่นตัวจนนำไปสู่ปัญหาที่ว่าจะทำให้การนอนถูกรบกวน และนอนหลับยากขึ้น หากเป็นไปได้ก็ควรดื่มเครื่องดื่มอย่างกาแฟในช่วงเช้าหรือบ่ายของวันจะดีกว่า 4. ลองลดหรือเลิกการงีบหลับระหว่างวันลง เพราะการงีบหลับระหว่างวันอาจรบกวนความรู้สึกง่วงนอนในช่วงสิ้นวัน และทำให้การนอนเป็นไปได้ยากขึ้น คุณภาพการนอนแย่ลง 5. ลองกำหนดเวลาตื่นนอนและเวลาเข้านอนให้เป็นเวลา เพราะการทำพฤติกรรมให้เป็นกิจวัตรจะช่วยตั้งนาฬิกาให้กับร่างกายและจะทำให้การตื่นนอน-การเข้านอนกลายเป็นเรื่องอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้ความพยายามเลย และนั่นจะทำให้การเข้านอนกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น 6. ลองใช้อาหารเสริมจากเมลาโทนินดูบ้าง เมลาโทนินเป็นสารที่หลั่งเพื่อให้ร่างกายรู้สึกง่วงและเข้านอนได้ง่ายขึ้น การเพิ่มเมลาโทนินให้กับร่างกายจึงเป็นวิธีที่ง่ายที่จะช่วยให้การนอนกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น และช่วยเพิ่มคุณภาพการนอนของเราได้อีกด้วย แต่วิธีนี้จำเป็นต้องศึกษาขนาดและปริมาณการใช้ให้พอเหมาะกับตัวเองด้วย การนอนไม่หลับนั้นไม่ใช่พฤติกรรมที่เกิดขึ้นลอย ๆ แต่มีสาเหตุที่มา หากเราหาและขจัดพฤติกรรมที่เป็นปัญหาและรบกวนการนอนออกไปได้ก็จะทำให้การเข้านอนเป็นเรื่องง่าย ของเคล็ดลับสุขภาพในช่วยรักษาสุขภาพกายและจิตให้แข็งแรงมากขึ้น บทความที่น่าสนใจการนอนหลับ สำคัญแค่ไหน […]