ไข้รูมาติก น้อยคนนักที่จะรู้จักกับไข้รูมาติก ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของหัวใจ หรือทางอาจจะเรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า โรคหัวใจรูมาติกนั่นเอง ในกลุ่มของผู้ป่วยที่เป็นไข้รูมาติก ย่อมจะมีอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจด้วยกันทั้งหมด แต่จะขึ้นอยู่กับว่าในขณะนั้นจะมีอาการป่วยอยู่ในระดับใด ซึ่งหากอยู่ในระดับที่เริ่มมีอาการไข้ สามารถเข้ารับการรักษาได้ทันเวลาก็จะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อหัวใจได้ และสามารถรักษาให้หายขาดได้หากทำตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัด เคล็ดลับสุขภาพ แต่หากอาการป่วยถึงขั้นรุนแรงโดยสามารถสังเกตุอาการได้จากการหายใจที่เหนื่อยหอบ ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเดิน หรือนั่งเฉย ๆ ก็มีอาการเหนื่อย นั่นคือสัญญาณที่บ่งชี้ว่าผู้ป่วยกำลังเป็นโรคหัวใจรูมาติก ซึ่งอาจจะเกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของสุขภาพหัวใจ หรืออาจจะร้ายแรงกว่านั้นคือลิ้นหัวใจรั่ว
ลักษณะอาการ ไข้รูมาติก จากกระดับปกติสู่ขั้นรุนแรงถึงสุขภาพหัวใจ
- มีอาการไข้ขึ้นสูงในช่วงวันเวลาตอนเย็นตลอดจนถึงกลางคืน โดยอุณหภูมิของร่างกายในขณะที่มีไข้นั้น จะอยู่ที่ 39-42 องศา จะต้องเช็ดตัวและทานยาลดไข้ทุก 4 ชั่วโมง แต่ในเวลากลางวันนั้นจะหายเป็นปกติไม่มีไข้
- อาการปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ อาการลักษณะนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะตอนที่เป็นไข้ โดยคนไข้จะเดินไม่ได้ชั่วขณะเพราะรู้สึกปวดตามข้อและกล้ามเนื้อตลอดเวลา 3 วิธีการลดช่วยไข้ ตัวร้อน แต่ถ้าไม่มีอาการไข้ขึ้นสูงก็สามารถเดินได้ปกติ
- หายใจเหนื่อย หอบ เคลื่อนไหวได้ช้าลง ในผู้ป่วยบางรายนั้นอาจจะรุนแรงถึงขั้นที่ว่าไม่สามารถเคลื่อนไหวหรือขยับตัวได้ ลักษณะแบบนี้เมื่อไปถึงโรงพยาบาล แพทย์จะทำการรักษาโดยให้ผู้ป่วย นอนนิ่ง ๆ เฉย ๆอย่างเดียว งดการขยับและเคลื่อนไหวร่างกายโดยเด็ดขาด ซึ่งอาการเช่นนี้เป็นข้อบ่งชี้ถึงสุขภาพของหัวใจที่ไม่เป็นปกติ บางรายอาจจะได้ยินเสียงของลิ้นหัวใจที่ชัดเจน แต่ในบางรายก็ไม่ได้ยินเลยก็มี
- คลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ ในผู้ป่วยบางราย ที่ไม่ได้แสดงอาการออกมาแบบชัดเจน แพทย์จะต้องทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และต้องฟังเสียงของลิ้นหัวใจร่วมด้วยอีกทาง
ลักษณะของอาการบางอย่างเหล่านี้ อาจจะส่งผลต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย แต่หากว่าตรวจเจอก่อนและรักษาก่อนได้ทันที ก็สามารถป้องกันการเกิดโรคหัวใจรูมาติกที่จะตามมาในอนาคตก็ได้ โดยการรักษาและการป้องกันนั้นอาจจะไม่เหมือนกัน บางคนที่เป็นเด็กที่ได้รับรักษาด้วยการนอนโรงพยาบาลจนหายดีแล้ว ก็ยังต้องกินยาหรือฉีดยาไปตลอดจนกว่าอายุจะครบ 21 ปีบริบูรณ์ตามตำราของแพทย์ เพื่อเป็นการป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำจนทำให้เกิดเป็นโรคหัวใจรูมาติกได้นั่นเอง
- ความดันโลหิตสูง ติดโควิดมีโอกาสเสี่ยงจะเป็คโรคนี้หรือไม่ ไปดูกันเลย
- คอเลสเตอรอล ข่าวแฮมเบอร์เกอร์เพิ่มปริมาณ เสี่ยงโรคหัวใจจริงหรือไม่
- ความเครียด เป็นเรื่องที่ไม่ดีต่อสุขภาพร่างกาย อย่าให้เครียดสะสม
- อาการอันตรายไม่ควรนวดเด็ดขาด เตรียมความพร้อมก่อนนวด
- ผลไม้ที่ไม่ควรปอกเปลือกก่อนรับประทาน เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
