การนอนหลับ คนเราให้ความสำคัญกับการพักผ่อนน้อยลงไปมาก อาจเพราะเหตุปัจจัยบางอย่าง สิ่งเร้าภายนอก หรืออาจหมายรวมถึงภาระหน้าที่และกิจกรรมบางอย่างที่ทำให้เราไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่มากนัก เมื่อเกิดการละเลยหรือเริ่มเห็นว่ามีกิจกรรมอย่างอื่นที่สำคัญกว่าการพักผ่อน ก็ทำให้ใส่ใจในการนอนน้อยลง และจะหันมาใส่ใจการนอนอีกครั้งก็ตอนที่ร่างกายส่งสัญญาณเตือน ในรูปแบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของร่างกาย

การนอนหลับ พักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่
เหตุผลที่เด็กและวัยเจริญเติบโตต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะว่าจะช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้ระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างปกติ สมองปลอดโปร่ง สามารถเรียนรู้และจดจำได้อย่างแม่นยำ เติบโตไปตามช่วงวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การนอนหลับไม่ใช่เพียงนอนธรรมดาเท่านั้น แต่หมายถึงการนอนหลับให้ครบ 7 – 8 ชั่วโมง และเป็นการนอนหลับที่หลับสนิทเพื่อให้เป็นการพักผ่อนที่เพียงพอและเต็มที่ เป็นการนอนหลับที่มีคุณภาพ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการพักผ่อนคือ ช่วง 22.00น. และตื่นตอนเช้า จะเป็นการนอนหลับพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบและเป็นไปตามนาฬิกาชีวิตมากที่สุดนั่นเอง
เช่นเดียวกัน หากนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลให้ร่างกายมีความสามารถในการทำสิ่งต่างๆ ลดลง ไม่มีสมาธิในการทำกิจกรรมที่อยู่ตรงหน้ามากพอ เพราะว่ามีความง่วงเข้ามาเป็นสิ่งเร้า สมาธิสั้น ภูมิคุ้มกันของร่างกายเสื่อมลง หากสะสมไปเรื่อยๆ และเพิ่มมากขึ้น อาจจะทำให้เบลอและสมองไม่ทำงาน รวมไปถึงร่างกายอ่อนล้า ไม่สดชื่น ไม่กระปรี้กระเปร่าอีกด้วย ปัจจัยอีกอย่างหนึ่งก็คือความเครียด การคิดมาก จนทำให้เกิดเป็นความกระวนกระวาย วิตกกังวล ก็เป็นสาเหตุให้นอนไม่หลับ นอนไม่พอได้ รวมถึงอาหารการกิน พฤติกรรมในการใช้ชีวิต

ช่วงเวลาที่เรานอนคือการหลับพักผ่อน เป็นการหยุดพักให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ไม่ว่าจะเป็นทั้งร่างกายภายในและภายนอก ระบบต่างๆ ภายในร่างกาย รวมถึงฮอร์โมนจะสามารถฟื้นฟูได้ดีที่สุดในช่วงเวลาที่เรานอนหลับนี้เอง อีกทั้งยังเป็นช่วงเวลาที่สำคัญให้เราได้ทบทวนเรื่องราวระหว่างวันที่เกิดขึ้น ช่วงเวลากลางคืนที่เรานอนหลับนี้เองที่จะส่งผลดีกับร่างกายของเราอย่างที่สุด ทำให้สุขภาพกายและสุขใจของเราดี สดใส และมีความสุข
ติดตามเว็บไซต์เคล็ดลับสุขภาพ
ข่าวสารการดูแลสุขภาพ3 ประโยชน์ของการนอนเร็ว เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม