ปัญหาส้นเท้าแตก ใกล้เข้าหน้าหนาวทีไรส้นเท้าแตกทุกที หรือทำไมคนอื่นไม่เป็น มีแต่เราที่ส้นเท้าแตกนะ ใช้หินขัดส้นเท้าแตก ใช้ครีมขัดส้นเท้าแตก หรือใช้สบู่ขัดส้นเท้าแตกก็ยังไม่เวิร์ก หากอยากรู้ว่าสาเหตุของส้นเท้าแตกคืออะไร เราอาสาบอกให้ทราบเดี๋ยวนี้

วิธีการดูแลและแก้ไข ปัญหาส้นเท้าแตก ให้ผิวกลับมาเนียมนุ่ม
ส้นเท้าแตกคืออะไรนะ?
ส้นเท้าแตกเป็นอาการที่ผิวหนังบริเวณส้นเท้ามีความแห้งกร้าน เป็นแผ่นแข็ง อาจมีรอยแตกตื้นๆ หรือส้นเท้าบวมแดง ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้รอยแตกนั้นอาจลึกขึ้นและมีเลือดไหลซึมออกมา สร้างความเจ็บปวดรวมถึงยังอาจติดเชื้อได้ด้วย

สาเหตุต่างๆ ที่ทำให้ส้นเท้าของคุณแตก
ให้พิจารณาดูค่ะว่าที่ตัวเองส้นแตก เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง?
– นิยมการเดินเท้าเปล่าโดยไม่สวมรองเท้าเป็นประจำ
– สวมรองเท้าที่ไม่พอดีกับขนาดเท้าของตัวเอง อาจหลวมหรือคับเกินไป
– สวมรองเท้าที่ไม่รองรับน้ำหนักดีพอ สวมรองเท้าแตะเป็นประจำ หรือสวมรองเท้าพื้นแข็งเกินไป
– มีน้ำหนักมากเกินไป จนส้นเท้าต้องแบกรับน้ำหนักที่เกินพอดี
– บ่อยครั้งที่ส้นแตก เกิดจากการอยู่ในห้องแอร์ หรือที่ที่มีอากาศหนาวเย็นเป็นประจำ
– นิยมการอาบน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนเป็นประจำซึ่งทำให้ผิวแห้ง
– ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายบางตัวที่ทำให้ผิวแห้ง
– ดื่มน้ำน้อยหรือดื่มน้ำไม่เพียงพอในแต่ละวัน
– แพ้สารเคมีบางชนิดที่ใช้เป็นประจำในชีวิตประจำวัน เช่น ครีมบำรุง สบู่ก้อน สบู่เหลว
– มีอายุมากขึ้น ผิวหนังจึงขาดความชุ่มชื้นไปตามวัย
– บางครั้งส้นแตก เกิดจากกรรมพันธุ์โดยตรง

วิธีดูแลอาการส้นเท้าแตกเบื้องต้น
– หลีกเลี่ยงการยืน เดิน หรือวิ่งเป็นเวลานานๆ
– หากพื้นรองเท้าแข็ง แนะนำให้ใช้แผ่นยางเสริมพื้นรองเท้า
– ดื่มน้ำให้มากขึ้นในแต่ละวัน อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นก็ช่วยได้เยอะ
– หมั่นแช่เท้าในน้ำอุ่นประมาณ 15 นาที จากนั้นให้ขัดส้นเท้าแตกด้วยหินขัดเบาๆ เพื่อนำเซลล์ผิวเก่าออกไป
– ส้นเท้าแตก ครีมบำรุงผิวก็ช่วยได้ ให้ทาบริเวณที่แตกก่อนนอนทุกคืนแล้วสวมถุงเท้าทับ ซึ่งคุณอาจใช้ครีมบำรุงเท้าโดยเฉพาะก็ยิ่งดี
ฝากกดติดตามเคล็ดลับสุขภาพ
บทความที่น่าสนใจคุณ ประโยชน์ของกาแฟ ที่มีผลดีต่อผิวพรรณอีกมากมาย ที่สาว ๆ ไม่ควรพลาด