อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่า ใบกระท่อม ได้มีการปลดล็อคออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งผู้ที่จะนำใบกระท่อมมาใช้ในการดูแลสุขภาพ สามารถนำมาใช้ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ต้องมีวิธีการใช้ที่ถูกหลัก และเป็นไปตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ โดยกฎหมายได้กำหนดไว้ว่า สามารถจำหน่ายใบกระท่อมโดยไม่นำมาแปรรูป หรือแปรสภาพ ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับใบกระท่อมสายพันธุ์ต่างๆซึ่งมีดังต่อไปนี้

สายพันธุ์ของ ใบกระท่อม ที่พบในประเทศไทย และนิยมนำมาทำเป็นยารักษาโรค
กระท่อมในประเทศไทยได้ถูกค้นพบทั้งหมด 3 สายพันธุ์ด้วยกัน ซึ่งมีดังต่อไปนี้
- สายพันธุ์ก้านแดง
กระท่อมสายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ที่นิยมกันอย่างมาก ของกินเพื่อสุขภาพ ซึ่งจะมีลักษณะก้านและเส้นใบเป็นสีแดง แต่ในบางครั้งสายพันธุ์นี้อาจจะมีก้านเขียวด้วย ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศนั่นเอง
- สายพันธุ์แตงกวา หรือ ก้านใบเขียว
กระท่อมสายพันธุ์นี้ก้านใบจะมีสีเขียวอ่อน ซึ่งสีจะอ่อนกว่าใบ และมีหูใบเป็นสีเขียวอ่อนด้วย
- สายพันธุ์ยักษ์ใหญ่
สายพันธุ์นี้จะเป็นสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่กว่า 2 สายพันธุ์ที่กล่าวมาข้างต้น รวมถึงส่วนบนของใบจะหยัก และหางใบจากกั้ง

สรรพคุณของใบกระท่อม
กระท่อมในสมัยก่อนนิยมนำมาใช้ทำเป็นยารักษาโรค เช่นกับ ประโยชน์ของใบแปะก๊วย สมุนไพรจีนดี ๆ ซึ่งมีสรรพคุณช่วยรักษาอาการท้องร่วง โรคเบาหวาน แก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ขับพยาธิ แก้ไอ ช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับ โรควิกลจริต และโรคอื่นๆอีกมากมาย
วิธีการรับประทานกระท่อม
หากเป็นหมอพื้นบ้านจะนำกระท่อมมาใช้เป็นส่วนผสมของการทำยา ซึ่งนำมาเป็นส่วนหนึ่งในตำรับยา แต่ถ้าหากเป็นปัจจุบันแล้วนั้น คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานกระท่อมแบบใบสด โดยการเคี้ยวและดื่มน้ำตาม เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุด

สายพันธุ์กระท่อมที่นิยมรับประทาน
โดยส่วนใหญ่แล้วสายพันธุ์กระท่อมที่หลายท่านนิยมนำมาใช้เพื่อรักษาโรคจะเป็นสายพันธุ์ก้านแดง เพราะสายพันธุ์ก้านแดงจะกินได้ง่ายกว่า และมีการออกฤทธิ์ได้เร็วกว่าก้านเขียว ซึ่งสายพันธุ์ก้านเขียวนั้นเมื่อนำมารับประทานหรือเคี้ยวจะมีเมือกมันทำให้รับประทานได้ยาก ในส่วนของสายพันธุ์ยักษ์ใหญ่ โดยส่วนใหญ่แล้วไม่นิยมใช้และไม่นิยมปลูกเพราะ สายพันธุ์นี้เมื่อรับประทานแล้วจะมีอาการเมากว่าสายพันธุ์อื่นๆและรับประทานได้ยากเนื่องจากเป็นใบที่ใหญ่และมีใบหยัก
กระท่อมทั้ง 3 สายพันธุ์นี้ ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่พบในประเทศไทย และทั้งสามสายพันธุ์ได้ถูกปลดล็อคออกจากบัญชียาเสพติดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าหากใครที่ต้องการจะนำกระท่อมมารับประทานเป็นยาเพื่อรักษาโรค ก็ควรมีการศึกษาหาข้อมูลให้ดี ufabet1688 และควรรู้จักปริมาณในการใช้ที่เหมาะสม เพราะหากรับประทานในปริมาณมากอาจทำให้ส่งผลเสียต่อร่างกายได้