หลายคนเคยประสบปัญหา สาเหตุทำให้นอนไม่หลับ เมื่อวันไหนที่เราอยากจะเข้านอนเร็วกว่าปกติ แต่ทำให้เรานอนไม่หลับ ซึ่งอาการเหล่านี้ส่งผลให้เกิดความหงุดหงิด เคล็ดลับสุขภาพ เป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความสงสัยว่าเกิดจากสาเหตุอะไร วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปคลายความสงสัยให้กระจ่างชัด ว่าสาเหตุของการที่ทำให้นอนไม่หลับเมื่ออยากที่จะเข้านอนก่อนปกติเป็นอย่างไร จะเกิดจากสาเหตุใดนั้นไปดูกันเลย สาเหตุทำให้นอนไม่หลับ เมื่อต้องการที่จะนอนเร็วกว่าปกติที่เคยเข้านอน หลังจากที่เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนให้เข้านอนเร็วกว่าปกติ มักจะทำให้เรานอนไม่หลับแต่เกิดอาการง่วงนอน ซึ่งสาเหตุเหล่านี้เป็นปัญหาของหลายคนที่พบเจอบ่อยครั้ง จากการทดสอบพบว่าหลายคนที่เปลี่ยนเวลานอน ให้เร็วขึ้นกว่าปกติ เช่น เคยนอนเวลาเที่ยงคืน แต่พอวันนี้อยากจะเข้านอนเร็วปรับเวลามานอน 22:00 น. มีอาการง่วงนอนแต่ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ ซึ่งเป็นสาเหตุมาจาก 2 ชั่วโมงแรกที่คุณเคยนอน เป็น 2 ชั่วโมงที่ทำให้หลับยากที่สุดก่อนที่จะถึงเวลานอนที่เคยนอนนั่นเอง หรือหลายคนเรียกช่วงนี้ว่า ช่วงห้ามนอน เป็นช่วงที่มีการปฏิเสธการนอนหลับ โดยการทำงานของสมอง ซึ่งเป็นกระบวนการตื่นของมนุษย์ ทำให้ช่วงนี้มีความทนทานในการนอนหลับนั่นเอง โดยการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ควรค่อยๆปรับไปตามเวลา 2-3 วัน ช่วงเวลาในการนอนหลับของท่านก็จะกลับมาเป็นปกติ ไม่ควรรับประทานอาหารก่อนเข้านอน ไม่ควรอาบน้ำก่อนเข้านอนเพราะจะทำให้ร่างกายตื่นตัว งดการเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ หาเข้านอนแล้วมีอาการนอนไม่หลับ ให้ท่านลุกขึ้นมาทำกิจกรรม วิธีช่วยให้นอนหลับง่าย อาทิเช่น การอ่านหนังสือ นั่งสมาธิ ฟังเพลงเบาๆ จะทำให้หลับง่ายขึ้น และนี่จึงเป็นสาเหตุและวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเองหลังจากที่มีอาการนอนไม่หลับ เนื่องจากสาเหตุการเข้านอนเร็วกว่าปกติ ท่านสามารถนำวิธีต่างๆที่เราแนะนำไปทำได้หากมีอาการเหล่านี้ หรือถ้าหากทำแล้วมีอาการไม่ดีขึ้น ไม่ควรช้าที่จะไปปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาให้ทันท่วงที
Month: December 2022
อาการ หายใจไม่ออก ช่วงรุ่งสางเนื่องจากเสมหะ แก้ไขอย่างไร
อาการ หายใจไม่ออก ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ต้องตื่นนอนก่อนเวลาเพราะหายใจไม่ออก เนื่องจากมีเสมหะเต็มทางเดินหายใจ แล้วเหมือนว่าไม่สามารถขับมันออกได้หมดเสียที เคล็ดลับสุขภาพ ก็จะรู้ดีกว่ามันสร้างความไม่สบายตัวให้อย่างมาก รบกวนการนอนที่เต็มอิ่ม และยังอาจทำให้เกิดความอ่อนเพลียต่อเนื่องไปถึงช่วงกลางวันอีกสำหรับบางคน กรณีที่ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วยอย่างอื่นร่วมด้วย อาการนี้ก็แก้ไขได้ไม่ยาก แค่ต้องเข้าใจร่างกายให้มากขึ้นอีกสักหน่อย สาเหตุของ อาการ หายใจไม่ออก อาจเกิดจากสิ่งเหล่านี้ เสมหะที่ทำให้หายใจไม่ออกเป็นเพราะขาดน้ำ ก่อนอื่นอยากให้เข้าใจธรรมชาติของร่างกายในจุดนี้ก่อน อาการหายใจไม่ออกเนื่องจากเสมหะหรือเมือกข้นในทางเดินหายใจ เป็นผลมาจากความเปลี่ยนแปลงในร่างกายเมื่อขาดน้ำ เวลาที่เรากำลังหลับอยู่ หากสภาพอากาศแห้งจนเกินไปร่างกายจะต้องการน้ำเพิ่ม ลดความเสี่ยงของ โรคไอเรื้อรัง แต่พอหลับอยู่จึงไม่อาจดื่มน้ำได้ ร่างกายจึงต้องสร้างเมือกขึ้นมาเพื่อกำจัดเชื้อโรคบางอย่างที่หลุดรอดเข้ามาตอนที่ร่างกายแห้งเกินไปนั่นเอง ส่วนจะเป็นรุนแรงแค่ไหนก็แล้วแต่พื้นฐานร่างกายของแต่ละคน เตรียมตัวก่อนเข้านอนป้องกันการหายใจไม่ออก ร่างกายของเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบมากที่สุด แม้แต่ยามหลับร่างกายก็ต้องใช้น้ำอยู่ดี หากขาดน้ำเมื่อไรก็ย่อมจะไอเพราะคอแห้ง และต่อเนื่องไปถึงหายใจไม่ออกเพราะเสมหะได้ จึงควรจิบน้ำตลอดในช่วงก่อนนอน แต่ให้จิบทีละนิดแทนการดื่มรวดเดียว ไม่อย่างนั้นจะอยากเข้าห้องน้ำบ่อย ถึงหายใจสะดวกแต่ก็ต้องตื่นมากลางดึกหลายรอบ จากจะได้ประโยชน์ก็ต้องไปแก้ปัญหาอย่างอื่นต่ออีก แก้การหายใจไม่โดยเพิ่มความชื้นให้พื้นที่อาศัย ยิ่งถ้าเปิดแอร์นอนหรือเปิดพัดลมจ่อตัวตลอด ความเสี่ยงที่จะหายใจไม่ออกยิ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว แนะนำให้เพิ่มความชื้นรอบตัวสักหน่อย อาจใช้เป็นแก้วน้ำที่เทน้ำจนเกือบเต็มแล้ววางไว้หัวเตียง หรือจะใช้เครื่องพ่นละอองน้ำสำหรับเพิ่มความชื้นโดยตรงก็ได้ แต่ต้องระวังไม่พ่นใกล้จุดที่นอนมากเกินไป กรณีที่อยู่บ้านต่างจังหวัดยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ควรงดเปิดแอร์และเปลี่ยนมาเปิดหน้าต่างบ้าง
ลดความเสี่ยงของ โรคไอเรื้อรัง กับการปรับตัวขั้นพื้นฐาน
ลดความเสี่ยงของ โรคไอเรื้อรัง หากตอนนี้คุณเป็นคนหนึ่งที่เริ่มมีอาการไออย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจุดเริ่มต้นจะเกิดจากอะไรก็ตาม แต่เพื่อลดความเสี่ยงที่มันจะต่อยอดไปเป็นโรคไอเรื้อรัง การดูแลสุขภาพ นอกจากการพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการ พร้อมรับการรักษาที่ถูกต้องแล้ว ก็ควรมีการปรับพฤติกรรมขั้นพื้นฐานร่วมด้วย ส่วนหนึ่งเพื่อลดความเสี่ยงที่อาการไอจะรุนแรงยิ่งขึ้น อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อทำให้ร่างกายฟื้นตัวและสามารถกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เป็นตัวปัญหาได้รวดเร็วขึ้น ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง ปรับอุณหภูมิร่างกายเพื่อ ลดความเสี่ยงของ โรคไอเรื้อรัง แต่ละช่วงเวลาจะมีระดับอุณหภูมิของร่างกายที่เหมาะสมกับการทำงานของระบบภายในอยู่ ที่น่าสนใจคือบางคนก็มีอาการของโรคไอเรื้อรังเพราะไม่ใส่ใจอุณหภูมิร่างกายด้วย วิธีการนั้นง่ายมาก เวลากลางคืนร่างกายต้องการความอบอุ่นพอสมควร อย่าเปิดแอร์หรือพัดลมแรงเกินไป และควรสวมถุงเท้านอนเสมอ ในช่วงกลางวันที่ร้อนจัดก็ไม่ควรอัดน้ำเย็นเข้าร่างกายเยอะเกินไป เพื่อไม่ให้อุณภูมิเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว โรคไอเรื้อรัง การปรับตัวขั้นพื้นฐานเพื่อลดความเสี่ยง ลดปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้มีอาการโรคไอเรื้อรัง จริงอยู่ว่าหากเราไม่ไปตรวจอย่างจริงจัง เราคงไม่รู้หรอกว่ามีปัจจัยไหนคอยกระตุ้นโรคไอเรื้อรังบ้าง เอาเป็นว่าให้จัดการเฉพาะส่วนที่เราพอคาดเดาได้ก็พอ อย่างเช่น ถ้ามีอาการภูมิแพ้มาก่อนหน้านี้ก็ให้เลี่ยงสิ่งที่แพ้ให้หมด ถ้าห้องที่อยู่มีฝุ่นสะสมมากก็ทำความสะอาดใหญ่เสียครั้งหนึ่ง เป็นต้น กรณีที่ทำทั้งหมดแล้วไม่ดีขึ้น ให้สังเกตตัวเองว่าเริ่มรู้สึกแย่ตอนไหน และมีอะไรที่น่าจะเป็นตัวกระตุ้นได้บ้าง ออกกำลังกายลดโรคไอเรื้อรังได้ดีที่สุด จำไว้ว่า สัญญาณของโรคไอเรื้อรังที่กำลังเป็นอยู่นั้น มันสามารถบรรเทาให้ดีขึ้นได้ด้วยการออกกำลังกาย โดยเราจะเน้นไปที่การคาร์ดิโอ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้หัวใจเต้นแรง ปอดต้องเร่งการแลกเปลี่ยนอากาศมากขึ้น ถือเป็นการบริหารปอดที่ดีมาก ในช่วงแรกอาจรู้สึกหายใจลำบากและเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง ให้ค่อยๆ ทำไปทีละนิด รับรองว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ก็จะออกกำลังกายได้ยาวนานขึ้น
โรคไอเรื้อรัง การปรับตัวขั้นพื้นฐานเพื่อลดความเสี่ยง
โรคไอเรื้อรัง หากตอนนี้คุณเป็นคนหนึ่งที่เริ่มมีอาการไออย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจุดเริ่มต้นจะเกิดจากอะไรก็ตาม แต่เพื่อลดความเสี่ยงที่มันจะต่อยอดไปเป็นโรคไอเรื้อรัง เคล็ดลับสุขภาพ นอกจากการพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการ พร้อมรับการรักษาที่ถูกต้องแล้ว ก็ควรมีการปรับพฤติกรรมขั้นพื้นฐานร่วมด้วย ส่วนหนึ่งเพื่อลดความเสี่ยงที่อาการไอจะรุนแรงยิ่งขึ้น อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อทำให้ร่างกายฟื้นตัวและสามารถกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เป็นตัวปัญหาได้รวดเร็วขึ้น ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง ปรับอุณหภูมิร่างกายเพื่อลดอาการ โรคไอเรื้อรัง แต่ละช่วงเวลาจะมีระดับอุณหภูมิของร่างกายที่เหมาะสมกับการทำงานของระบบภายในอยู่ ที่น่าสนใจคือบางคนก็มีอาการของโรคไอเรื้อรังเพราะไม่ใส่ใจอุณหภูมิร่างกายด้วย วิธีการนั้นง่ายมาก เวลากลางคืนร่างกายต้องการความอบอุ่นพอสมควร อย่าเปิดแอร์หรือพัดลมแรงเกินไป และควรสวมถุงเท้านอนเสมอ ในช่วงกลางวันที่ร้อนจัดก็ไม่ควรอัดน้ำเย็นเข้าร่างกายเยอะเกินไป เพื่อไม่ให้อุณภูมิเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว รู้จัก สมุนไพรไทย ช่วยรักษาอาการลองโควิด ได้เป็นอย่างดี ลดปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้มีอาการโรคไอเรื้อรัง จริงอยู่ว่าหากเราไม่ไปตรวจอย่างจริงจัง เราคงไม่รู้หรอกว่ามีปัจจัยไหนคอยกระตุ้นโรคไอเรื้อรังบ้าง เอาเป็นว่าให้จัดการเฉพาะส่วนที่เราพอคาดเดาได้ก็พอ อย่างเช่น ถ้ามีอาการภูมิแพ้มาก่อนหน้านี้ก็ให้เลี่ยงสิ่งที่แพ้ให้หมด ถ้าห้องที่อยู่มีฝุ่นสะสมมากก็ทำความสะอาดใหญ่เสียครั้งหนึ่ง เป็นต้น กรณีที่ทำทั้งหมดแล้วไม่ดีขึ้น ให้สังเกตตัวเองว่าเริ่มรู้สึกแย่ตอนไหน และมีอะไรที่น่าจะเป็นตัวกระตุ้นได้บ้าง ออกกำลังกายลดโรคไอเรื้อรังได้ดีที่สุด จำไว้ว่า สัญญาณของโรคไอเรื้อรังที่กำลังเป็นอยู่นั้น มันสามารถบรรเทาให้ดีขึ้นได้ด้วยการออกกำลังกาย โดยเราจะเน้นไปที่การคาร์ดิโอ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำให้หัวใจเต้นแรง ปอดต้องเร่งการแลกเปลี่ยนอากาศมากขึ้น ถือเป็นการบริหารปอดที่ดีมาก ในช่วงแรกอาจรู้สึกหายใจลำบากและเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง ให้ค่อยๆ ทำไปทีละนิด รับรองว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ก็จะออกกำลังกายได้ยาวนานขึ้น